อาการแบบนี้ร่างกายขาดวิตามินอะไรอยู่ สัญญาณเตือนที่ต้องใส่ใจ

ร่างกายขาดวิตามิน

การใช้ชีวิตของมนุษย์ทุกคนจำเป็นต้องได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอเพื่อให้ร่างกายยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ หากว่ากันตามพื้นฐานเบื้องต้นการทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ คือสิ่งที่ถูกปลูกฝังกันมาตั้งแต่ยังเด็ก โดยเฉพาะกลุ่มสารอาหารวิตามินซึ่งได้จากผัก ผลไม้ จะมีส่วนสำคัญต่อร่างกายอย่างยิ่ง แต่ถ้าคุณเองเป็นคนไม่ค่อยทานผัก หรือทานอาหารไม่ครบหมู่ เมื่อโตขึ้นเรื่อย ๆ อาจเกิดสัญญาณเตือนบางอย่างจากร่างกายได้ ลองมาเช็กกันสักนิดถึงอาการที่กำลังเป็นอยู่ตอนนี้เกิดจากร่างกายขาดวิตามินอะไรกันแน่

เช็คว่าร่างกายขาดวิตามินอะไร ต้องทำยังไง?

ตามความเป็นจริงแล้วหากไม่ได้มีการตรวจอย่างละเอียดทางการแพทย์ถือเป็นเรื่องยากมากที่จะบอกว่าร่างกายของแต่ละคนกำลังขาดวิตามินอะไรอยู่หรือไม่ แต่โดยปกติแล้วการจะเช็คว่าร่างกายขาดวิตามินอะไรอยู่ส่วนมากมักประเมินจากอาการความผิดปกติเป็นสำคัญ เช่น รู้สึกดวงตาพร่ามัว เจ็บป่วยง่าย ปวดข้อกระดูก รู้สึกวิงเวียนศีรษะบ่อย เป็นต้น เพราะวิตามินแต่ละชนิดเมื่อเข้าสู่ร่างกายแล้วจะให้ผลลัพธ์การดูแลสุขภาพแตกต่างกันออกไป อาการแปลก ๆ ที่ผิดปกติไปจากเดิมจึงเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ระดับหนึ่งว่าร่างกายขาดวิตามินตัวไหนอยู่

ร่างกายขาดวิตามินเอ อาการเป็นอย่างไร?

วิตามินเอทำหน้าที่ในการกระตุ้นภูมิคุ้มกันของร่างกาย รวมถึงมีส่วนสำคัญในการบำรุงสายตา หากร่างกายขาดวิตามินเอ อาการที่เกิดขึ้นส่วนมากมักเป็นไข้หวัดบ่อย ติดเชื้อง่าย รวมถึงบางคนยังอาจมีอาการตาพร่า ตาแห้งจากการจ้องจอเวลานาน ใช้สายตาตอนกลางคืนไม่ค่อยดี หรือถ้ายังปล่อยไว้ระยะยาวอาจส่งผลถึงขั้นจอประสาทตาเสื่อมและอาจตาบอกเอาได้เลย

ร่างกายขาดวิตามินบี อาการเป็นอย่างไร?

ต้องขออธิบายก่อนว่าวิตามินบี จัดเป็นกลุ่มสารอาหารที่มีความหลากหลายสูงมาก เช่น วิตามินบี 1, บี 2, บี 3, บี 6, บี 12 เป็นต้น ซึ่งแต่ละตัวก็มีจะมีจุดเด่นในการดูแลร่างกายแตกต่างกันออกไป ดังนั้นจึงขอพูดถึงภาพรวมกันของการที่ร่างกายขาดวิตามินชนิดนี้กันว่าจะมีอาการอย่างไรบ้าง ซึ่งอาการที่พบได้บ่อยมาก ประกอบไปด้วย

  • ขาดวิตามินบี 1 มักรู้สึกอ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง ชาบริเวณนิ้วมือนิ้วเท้า รู้สึกเจ็บจากการถูกกระแทกหรือร่างกายได้รับบาดเจ็บง่ายกว่าเดิม ขณะที่บางคนอาจมีอาการท้องผูกร่วมกับการเบื่ออาหาร หรือหัวใจเต้นเร็วผิดปกติ
  • ขาดวิตามินบี 2 การทำงานของระบบทางเดินอาหารไม่ค่อยดี ท้องอืดท้องเฟ้อบ่อย อาหารไม่ย่อย มุมบากแตก เกิดโรคปากนกกระจอก แสบตา ตาไม่สู้แสง ตาแดง-ตาอักเสบบ่อย บางรายอาจมีอาการหูและจมูกอักเสบร่วมด้วย
  • ขาดวิตามินบี 3 ร่างกายขาดวิตามินชนิดนี้มักสังเกตออกได้ทางผิวพรรณ เช่น อาการผิวหนังอักเสบ แห้งกร้าน ตกสะเก็ดง่าย เกิดจ้ำมีม่วงคล้ำขึ้นแบบไม่มีสาเหตุ บางรายอาจมีอาการท้องร่วง ท้องเสีย อ่อนเพลีย และเบื่ออาหารร่วมด้วย
  • ขาดวิตามินบี 6 มักนอนไม่ค่อยหลับ สะดุ้งตื่นแล้วหลับต่อยาก ร่างกายจึงมักอ่อนเพลียจากการพักผ่อนน้อย รวมถึงอาจมีอาการผมร่วงและโรคผิวหนังร่วมด้วย
  • ขาดวิตามินบี 12 ส่วนมากคนที่มีภาวะโลหิตจางมักมีสาเหตุส่วนหนึ่งจากการขาดวิตามินตัวนี้ ร่วมถึงยังรู้สึกอ่อนเพลีย เหนื่อยล้า ง่วงซึมบ่อย ๆ หัวใจเต้นเร็ว หายใจเร็ว การทำงานของประสาทไม่ค่อยสมบูรณ์มากนัก

ร่างกายขาดวิตามินซี อาการเป็นอย่างไร?

วิตามินซีมีส่วนสำคัญต่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อร่างกายขาดวิตามินตัวนี้จึงมักเจ็บป่วยง่าย เช่น ไข้หวัด ติดเชื้อโรค อาการเลือดออกตามไรฟัน อ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีเรี่ยวแรง รู้สึกง่วงนอนบ่อย ยิ่งตอนเช้าจะไม่อยากลุกจากที่นอน ต้องการนอนต่อ รวมถึงผิวพรรณแห้ง หยาบกร้านง่าย ดูไม่เนียนนุ่ม จะเห็นว่าวิตามินชนิดนี้ส่งผลโดยตรงต่อหลายส่วนของร่างกาย นั่นจึงเป็นเหตุผลที่แพทย์มักแนะนำให้ทานวิตามินซีเยอะ ๆ เพื่อสุขภาพที่ดี

ร่างกายขาดวิตามินดี อาการเป็นอย่างไร?

ในเชิงของการดูแลสุขภาพวิตามินดีจะมีส่วนสำคัญในการดูดซึมแคลเซียมและฟอสฟอรัสให้สามารถทำงานในระบบต่าง ๆ ของร่างกายได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ด้วยเหตุนี้เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณขาดวิตามินดีเป็นเวลานาน อาการที่เกิดขึ้นจะเกี่ยวข้องกับเรื่องกระดูกและฟัน โดยเฉพาะภาวะกระดูกพรุน กระดูกเปราะบาง หักง่าย มากไปกว่านั้นยังสุ่มเสี่ยงต่อการเกิดโรคเบาหวาน โรคมะเร็งบางประเภท และโรคกล้ามเนื้ออ่อนแรงอีกด้วย

ร่างกายขาดวิตามินอี อาการเป็นอย่างไร?

สำหรับสารอาหารอย่างวิตามินอีจะทำหน้าที่ดูแลสมองและระบบประสาทโดยตรง ดังนั้นหากร่างกายขาดวิตามินดังกล่าวจึงมักแสดงออกทางด้านของร่างกายที่เกี่ยวข้องกับการทำงานของสมอง เช่น ภาวะกล้ามเนื้ออ่อนแรง การทรงตัวไม่ปกติ แต่ส่วนใหญ่มักเกิดจากกรรมพันธุ์จำพวกตับอ่อนและลำไส้บกพร่องในการดูดซึมวิตามินดี อีกทั้งยังต้องใช้เวลานานมากกว่าโรคดังกล่าวจะเกิดขึ้นหรืออาจไม่เกิดก็ได้ คนที่ร่างกายปกติดีจึงไม่ต้องกังวลมากนัก

ถ้าร่างกายขาดวิตามินจะเกิดอะไรขึ้น?

หากร่างกายขาดวิตามินหรือได้รับในปริมาณไม่เพียงพอกับความต้องการ สิ่งที่ตามมานั่นคือความเสี่ยงต่อการเกิดโรค หรือความผิดปกติบางประการของสุขภาพ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับวิตามินประเภทนั้น ๆ ว่ามีส่วนในการดูแลสุขภาพด้านใด เช่น ถ้าเป็นวิตามินเอ อาจมีอาการดวงตาพร่ามัว ปวดกระบอกตา วิตามินซี เจ็บป่วยง่าย เป็นไข้หวัดบ่อย ผิวพรรณไม่ค่อยเปล่งปลั่ง สวยงาม เป็นต้น การรู้จักกับวิตามินแต่ละประเภทพร้อมเลือกทานอาหารที่เหมาะสมจึงมีส่วนช่วยลดความเสี่ยงต่ออันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้กับทุกคน

ร่างกายขาดวิตามินต้องกินอะไร?

อีกคำถามยอดฮิตของหลาย ๆ คนทั้งคนที่รู้สึกว่าตนเองมีอาการผิดปกติและสันนิษฐานถึงร่างกายขาดวิตามินบางชนิด หรือคนที่อยากเพิ่มเติมวิตามินบางตัวให้กับร่างกาย การที่ร่างกายขาดวิตามินต้องกินอะไรดีนะ? ลองมาเช็กลิสต์อาหารที่อัดแน่นไปด้วยวิตามินชนิดต่าง ๆ กันเลย

  • วิตามินเอ สามารถพบได้เยอะมากกับอาหารกลุ่มไข่แดง ตับ นม รวมถึงกลุ่มพืชที่มีสารแคโรทีนอยด์ เช่น ผลไม้สีเหลือง สีส้ม สีแดง จำพวกมะเขือเทศ ฟักทอง มะละกอสุก มะม่วงสุก กล้วย แตงโม สตรอเบอร์รี่ เชอร์รี่ แครอท รวมถึงกลุ่มผักใบเขียว ตำลึง
  • วิตามินบี พบเจอได้จากอาหารหลายชนิดไม่ว่าจะเป็นเนื้อสัตว์ นม ไข่ ธัญพืช ถั่ว ผักใบเขียว ผลไม้หลากชนิด
  • วิตามินซี อาหารควรทานเมื่อร่างกายขาดวิตามินซีจะเน้นกลุ่มผักใบเขียวโดยเฉพาะคะน้า บล็อกโคลี มะระ ถั่วลันเตา มะรุม ผักหวาน ยอดสะเดา ดอกกะหล่ำ พริกหวาน ใบปอ มันฝรั่ง มะเขือเทศ ผลไม้รสเปรี้ยวที่ทุกคนคุ้นเคยกันดีไม่ว่าจะเป็นส้ม ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ มะขามป้อม ฝรั่ง กีวี มะละกอสุก ฯลฯ
  • วิตามินดี จะเป็นวิตามินที่พบเจอในเนื้อสัตว์กลุ่มสัตว์ทะเลเป็นส่วนใหญ่ เช่น ปลาทูน่า แซลมอน ปลาแมคเคอเรล ปลาซาร์ดีน ปลานิล ปลาตะเพียน รวมถึงพบในเห็ดหอม กับไข่แดง
  • วิตามินอี ส่วนใหญ่จะพบในธัญพืชที่มีน้ำมัน รวมถึงในน้ำมันพืชที่มีการสกัดออกมาจากพืชบางชนิด เช่น น้ำมันถั่วเหลือง น้ำมันทานตะวัน

ร่างกายขาดวิตามินมาก ๆ จำเป็นต้องกินอาหารเสริมหรือไม่?

หลายคนอาจมีข้อสงสัยเพิ่มเติมว่ากรณีที่ร่างกายขาดวิตามินมาก ๆ จะด้วยเหตุผลใดก็ตาม อาหารเสริมมีความจำเป็นมากน้อยแค่ไหน? ขอยืนยันว่าหากร่างกายขาดวิตามินเยอะเกินไปจนเกิดความบกพร่องหรือมีอาการแสดงออกชัดเจนการทานอาหารเสริมถือเป็นอีกทางเลือกที่ควรทำ เพราะจะช่วยให้วิตามินชนิดดังกล่าวเข้าสู่ร่างกายในปริมาณที่เหมาะสม ถูกนำไปใช้เพื่อเสริมสร้างความแข็งแกร่งของอวัยวะและภูมิคุ้มกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อย่างไรก็ตามสิ่งสำคัญมากที่ควรรู้ในการเลือกกินวิตามินเสริม อาหารเสริมทั้งหลายจะต้องเลือกยี่ห้อที่น่าเชื่อถือ ผ่านการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้มาตรฐานระดับสากล เพื่อลดความเสี่ยงที่อาจเกิดผลข้างเคียงอื่นตามมาจนถึงขั้นเป็นอันตรายต่อสุขภาพซึ่งคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ ๆ และอีกเรื่องที่สำคัญมากควรเลือกกินในปริมาณที่เหมาะสมตามคำแนะนำของแพทย์ หรือคำแนะนำตามฉลากในบรรจุภัณฑ์ ไม่ต้องกินเยอะเกินไป เพราะแทนที่ร่างกายจะได้ใช้อย่างเกิดประโยชน์อาจสร้างโทษและผลเสียเกินกว่าที่คิดเอาไว้ได้เช่นกัน

อาการเพิ่มเติมอื่น ๆ จากการที่ร่างกายขาดวิตามิน

นอกจากอาการต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นเมื่อร่างกายขาดวิตามินหลักตามที่ระบุเอาไว้แล้ว ก็ยังอาจมีความเสี่ยงต่ออาการอื่นเพิ่มเติมได้ขึ้นอยู่กับประเภทสารอาหาร สภาพร่างกาย และปัจจัยแวดล้อมอื่น ตัวอย่างของอาการของคนขาดวิตามินและสารอาหารสำคัญ มีดังนี้

  • สิว แม้จะเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นได้กับทุกคนโดยเฉพาะช่วงวัยเจริญพันธุ์ แต่การขาดวิตามินเอ และวิตามินดี ก็มีส่วนทำให้เกิดสิวได้เช่นกัน โดยเฉพาะคนที่ไม่ค่อยได้กินวิตามินเออาจเกิดสิวอักเสบได้ง่าย
  • ผมร่วง ผมบาง หนังศีรษะล้าน นอกจากเรื่องของกรรมพันธุ์แล้วยังอาจเกิดจากการที่ร่างกายขาดแร่ธาตุสังกะสี
  • เลือดกำเดาไหลบ่อย เป็นแผลแล้วเลือกออกเยอะ ห้ามเลือดยาก เลือดออกในกระเพาะอาหาร สาเหตุหนึ่งมาจากการที่ร่างกายขาดวิตามินเค ซึ่งมีส่วนสำคัญต่อกระบวนการแข็งตัวของเลือด
  • ตะคริว กล้ามเนื้อหดเกร็งบ่อย สาเหตุมาจากร่างกายขาดโพแทสเซียมในการไปกระตุ้นให้โปรตีนสร้างกล้ามเนื้อ
  • ผิวหมองคล้ำ มีริ้วรอยก่อนวัย ส่วนหนึ่งเป็นได้จากการขาดวิตามินเอ วิตามินซี วิตามินอี รวมถึงกรดโฟลิก ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระในการช่วยบำรุงดูแลผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสว่างกระจ่างใส
  • สมาธิสั้น จิตใจไม่ค่อยอยู่กับตัว นอนหลับยาก มักมีภาวะความเครียดบ่อย ๆ ส่วนหนึ่งเพราะร่างกายมีระดับแมกนีเซียมต่ำเกินไป
  • เล็บเปราะ ฉีกขาดง่าย เกิดจากการที่ร่างกายมีปริมาณธาตุเหล็กน้อยเกินไป

รู้แบบนี้แล้วใครที่เริ่มสังเกตอาการของตนเองหรือมีความผิดปกติไม่แน่ใจว่าร่างกายขาดวิตามินอะไรหรือเปล่า ก็ลองนำเอาข้อมูลเหล่านี้ไปตรวจสอบ หรือถ้าจะให้ชัวร์อาจเลือกเข้าเช็กสุขภาพกับทางโรงพยาบาลก็ได้เช่นกัน เมื่อรู้ปัญหาที่เกิดขึ้นชัดเจนจะได้ทำการแก้ไขให้ตรงจุด บอกลาทุกปัญหาสุขภาพอื่น ๆ ที่อาจตามมาภายหลังไปเลย

Ref:

  1. https://www.phyathai.com/th/article/3780-อ่อนเพลีย_เครียดง่าย_อา
  2. https://www.interpharma.co.th/articles/5สัญญาณเตือนภัย?locale=th
  3. https://www.bumrungrad.com/th/health-blog/november-2019/5-vitamins-minerals
  4. https://www.rama.mahidol.ac.th/ramachannel/infographic/แหล่งรวมวิตามินในอาหาร/
  5. https://www.phukethospital.com/th/healthy-articles/how-much-vitamins-body-needs/
  6. https://www.sanook.com/health/18121/

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *