วิธีป้องกันโรคอ้วนในเด็ก และความผิดปกติของการกิน

โรคอ้วนในเด็ก

สำหรับเด็กบางคน การรับประทานอาหารอาจมีความซับซ้อน แนวคิดเรื่องการรับประทานอาหาร รูปร่างหน้าตา และความหมายของการมีขนาดตัวที่ “สมบูรณ์แบบ” แนวคิดของเด็กเหล่านี้อาจมาจากพ่อแม่ที่มีเจตนาดี ที่ต้องการให้ลูกมีน้ำหนักที่ดีต่อสุขภาพ หรือได้รับอิทธิพลมาจากเพื่อน โซเชียลมีเดีย

พ่อแม่สามารถปกป้องลูกจากการเป็นโรคอ้วนในเด็กได้ โดยการมุ่งความสนใจไปที่สุขภาพโดยรวมของลูก

มีงานวิจัยจำนวนมากและเพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับความจำเป็นในการจัดทำมาตรการเพื่อป้องกันโรคอ้วนในเด็ก ความผิดปกติในการรับประทานอาหาร ความกังวลเกี่ยวกับอัตราโรคอ้วนที่เพิ่มขึ้นนำไปสู่การให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ สิ่งเหล่านี้มีความสำคัญและเป็นประโยชน์ แต่บางครั้งมีคนนำไปตีความแบบผิดๆ กลายเป็นความพยายามที่จะมุ่งลดน้ำหนักอย่างเดียว

เด็กและผู้ใหญ่บางคนจึงหันมาใช้พฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การงดมื้ออาหาร งดอาหารทั้งกลุ่ม หรือแม้แต่การทำสิ่งต่างๆ เช่น การอาเจียน หรือการกินยาระบาย เพื่อลดน้ำหนัก

คำแนะนำพื้นฐาน เพื่อช่วยให้พ่อแม่และเด็กพัฒนาแนวคิดเรื่องโภชนาการ ป้องกันโรคอ้วนในเด็ก :

หลีกเลี่ยงการที่ให้เด็กลดน้ำหนัก

เด็กไม่ควร “อดอาหาร” เพื่อลดน้ำหนัก การอดอาหารส่วนใหญ่มีข้อจำกัดสูง ไม่สามารถทำได้ และอาจเป็นอันตรายต่อการเจริญเติบโตและพัฒนาการของเด็ก

วิธีที่ร่างกายปรับตัวต่อการลดน้ำหนัก ช่วยส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงทางเมตาบอลิซึมไปสู่การเพิ่มน้ำหนัก
ผลลัพธ์มักจะมีน้ำหนักมากกว่าเดิม อาจนำไปสู่ความรู้สึกผิดหวังและอับอาย และต้องอดอาหารอีกรอบ การควบคุมอาหารจนเป็นนิสัยยังอาจทำให้ลูกขาดสารอาหารที่จำเป็น

ดังนั้น ลืมเรื่องการควบคุมอาหารไปซะ หันมาส่งเสริมให้ลูกพัฒนานิสัยการใช้ชีวิตที่ดีแทน รับประทานอาหารที่สมดุล และออกกำลังกายเป็นประจำ ด้วยการเน้นย้ำสิ่งที่ลูกสามารถกินและทำได้ และหันเหความสนใจไปจากข้อจำกัดด้านอาหารและการลดน้ำหนัก พ่อแม่จะช่วยให้ลูกพัฒนานิสัยเชิงบวกและยั่งยืนได้

จัดเวลารับประทานอาหารเป็นครอบครัว

การรับประทานอาหารในครอบครัวอย่างสนุกสนานช่วยลดความเสี่ยงการกินที่ไม่เป็นระเบียบในเด็ก โดยเฉพาะในเด็กผู้หญิง ยิ่งครอบครัวนั่งทานอาหารด้วยกันบ่อยมากเท่าไร เด็กก็จะบริโภคผลไม้ ผัก แคลเซียม และไฟเบอร์มากขึ้นเท่านั้น และเด็กจะบริโภคเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลน้อยลงด้วย ในระยะยาวนิสัยเหล่านี้มีส่วนช่วยให้บรรลุและรักษาน้ำหนักตัวให้แข็งแรงได้จนถึงวัยผู้ใหญ่

การรับประทานอาหารร่วมกันเป็นครอบครัว ช่วยให้เด็กๆ มีทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพมากกว่าที่คิดได้ด้วยตัวเอง ในระหว่างมื้ออาหารของครอบครัว เด็กๆ ได้พูดคุย และสังเกตพ่อแม่ตัดสินใจเลือกอาหารที่ดีต่อสุขภาพ ช่วยให้ตระหนักถึงรูปแบบการกินของเด็กมากขึ้น

หลีกเลี่ยงการพูดคุยเรื่องน้ำหนัก

การวิจัยชี้ให้เห็นว่าการพูดถึงขนาดร่างกาย การอดอาหาร หรือการลดน้ำหนัก อาจเป็นอันตรายและส่งผลเสียอย่างมากในแง่ของภาพลักษณ์ร่างกายและการควบคุมน้ำหนัก บ่งบอกให้ลูกเห็นว่า ถ้าลูกมีน้ำหนักเพิ่มขึ้นและเกินเกณฑ์ จะส่งผลเสียต่อร่างกายอย่างไร

สนับสนุนให้ทั้งครอบครัวใช้ภาษาที่เหมาะสมเกี่ยวกับรูปร่างหน้าตาของผู้อื่น และไม่สนับสนุนการใช้ชื่อเล่น เมื่อมีน้ำหนักตัวหรืออ้วน ช่วยลูกพัฒนานิสัยเชิงบวก สร้างสภาพแวดล้อมภายในบ้าน ที่ทำให้การรับประทาน อาหารเพื่อสุขภาพ และมีส่วนร่วมในการออกกำลังกายเป็นเรื่องง่าย

อย่าหยอกล้อหรือล้อเลียน

การล้อเลียนเรื่องน้ำหนักในครอบครัว มักส่งผลต่อพัฒนาการของภาวะน้ำหนักเกินในเด็ก อาจทำให้เกิดพฤติกรรมรับประทานอาหารเกินขนาด หรืออดอาหารแบบสุดโต่ง

ในเด็กผู้หญิง การพูดคุยเรื่องน้ำหนักอาจทำด้วยความรัก แต่โดยทั่วไปแล้วผลกระทบมักเป็นด้านลบ ชื่อเล่นที่เกี่ยวข้องกับน้ำหนักของเด็ก เช่น “อ้วน” หรือ “ตุ๊บบี้” เด็กจะจำไปถึงวัยรุ่นหรือจำถึงวัยผู้ใหญ่ ความทรงจำเหล่านี้อาจส่งผลเสียในระยะยาว

สร้างแรงบันดาลใจในเชิงบวกเกี่ยวกับร่างกาย

ลูกอาจรู้สึกประหม่าเกี่ยวกับขนาดร่างกายของตนเอง โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงเข้าสู่วัยแรกรุ่น มีแนวโน้มที่จะออกกำลังกายน้อยลง และมีแนวโน้มที่จะมีพฤติกรรมการกินที่ไม่ดีต่อสุขภาพมากขึ้น เมื่อลูกถามว่า “เขาดูดีหรือไม่” ให้ชมเชยอย่างจริงใจ โดยปล่อยให้ความรักของพ่อแม่เปล่งประกายผ่านคำพูด ส่งเสริมให้ลูกมองร่างกาย ว่าเป็นของขวัญที่น่าอัศจรรย์ที่สามารถดูแลด้วยทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพและเชิงบวก ให้ชื่นชมลักษณะนิสัยเชิงบวกของลูก ที่นอกเหนือไปจากรูปลักษณ์ภายนอก เช่น ความสามารถพิเศษ ในการเอาใจใส่ หรือความมุ่งมั่นของลูก

การแสดงออกถึงทัศนคติที่ดีต่อร่างกายของตัวพ่อแม่เอง หลีกเลี่ยงการวิพากษ์วิจารณ์ตนเองหรือเปรียบเทียบตนเองกับนางแบบในนิตยสาร และเตือนตัวเองว่านางแบบบนโซเชียลมีเดียมักจะไม่ได้เป็นตัวแทนของร่างกายที่แข็งแรงและสมจริง บ่อยครั้งที่ภาพเหล่านี้ได้รับการแก้ไขมาแล้ว ให้มุ่งเน้นไปที่การปลูกฝังค่านิยมที่นอกเหนือจากรูปลักษณ์ภายนอก

เทคนิคสำหรับพ่อแม่เพื่อปลูกฝังค่านิยมที่ดี

  • ทำความรู้จักกับสิ่งที่อ่านและดู พูดคุยเกี่ยวกับสิ่งที่ทำให้ผู้คนมีเสน่ห์ในชีวิตจริง เช่น ความเห็นอกเห็นใจ
    หรือทัศนคติที่สดใส
  • จำกัดการเข้าถึงโซเชียลมีเดีย เครือข่ายสังคมออนไลน์ เพราะลูกอาจแชร์รูปภาพหรือโพสต์วิดีโอแล้วได้รับคำติชมจากเพื่อนๆ ในทางลบ
  • ส่งเสริมความหลากหลายทางร่างกาย ลูกอาจเปรียบเทียบตัวเองกับผู้อื่น และอาจเชื่อว่ารูปร่างบางประเภท
    ดีกว่า พูดคุยกับลูกว่าคนเรามีรูปร่างที่แตกต่างกัน และไม่มีใครที่สมบูรณ์แบบ
  • สร้างแบบอย่างเชิงบวก สอนด้านความสำเร็จมากกว่ารูปลักษณ์ภายนอก เมื่อพูดถึงคนดังหรือผู้คนในทีวี
    หลีกเลี่ยงการตำหนิเรื่องขนาดร่างกาย ไม่ว่าจะใหญ่หรือเล็ก หรือรูปร่างหน้าตา
  • เชียร์คุณสมบัติที่ให้ความสำคัญ ให้ลูกชมเชยและยืนยันคุณสมบัติ ที่เกี่ยวข้องกับความงามภายใน เช่น
    ความมีน้ำใจ ความเมตตา และความกล้าหาญ ชมเชยคุณสมบัติเหล่านี้ในผู้อื่นด้วย การทำเช่นนี้จะช่วยให้
    ลูกเข้าใจสิ่งที่พ่อแม่ให้ความสำคัญมากที่สุด
  • ส่งเสริมมิตรภาพที่ดี ในวัยเด็กและวัยรุ่น ทำความรู้จักเพื่อนของลูก พ่อแม่ของพวกเขา และกิจกรรมที่ลูกชอบ
    เมื่อใช้เวลาอยู่กับเพื่อน ๆ

ความผิดปกติของการกินในเด็ก

เป็นภาวะทางพฤติกรรมที่มีลักษณะเฉพาะคือรูปแบบการกินที่ไม่เป็นระเบียบซึ่งควบคู่ไปกับภาวะทางอารมณ์
บางประการ ความผิดปกติเหล่านี้เกิดจากปัจจัยต่าง ๆ รวมทั้งปัจจัยทางสังคมและจิตใจ หากปล่อยทิ้งไว้โดย ไม่รักษา โรคนี้อาจนำไปสู่การขาดสารอาหารในเด็ก ส่งผลต่อพัฒนาการทางร่างกายและจิตใจ

กังวลเรื่องอ้วนอยู่เรื่อยๆ หรือพูดเรื่องน้ำหนักลด

การเปลี่ยนแปลงนิสัยการกินกะทันหัน เช่น การงดมื้ออาหาร หรือการให้ความสำคัญกับการกินที่ดีต่อสุขภาพมากเกินไป การควบคุมอาหารที่เข้มงวดเกินไป เช่น อาหารคาร์โบไฮเดรตต่ำ งดพบปะเพื่อน งดกิจกรรมที่ชอบ หมกมุ่นกับการควบคุมอาหาร และการออกกำลังกายอย่างหนัก หรือการหลีกเลี่ยงอาหารที่ไม่ดี

การอดอาหารเรื้อรัง

บ่อยครั้งที่เด็กมีรูปแบบการกินที่ไม่เป็นระเบียบ ผลที่ตามมาอาจรวมถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของโรคอ้วน และความผิดปกติของการรับประทานอาหาร การสูญเสียมวลกระดูก ปัญหาการย่อยอาหาร ความไม่สมดุลของอิเล็กโทรไลต์และของเหลว ความผิดปกติของหัวใจและความดันโลหิต ความวิตกกังวล ความซึมเศร้า และการแยกตัว อาจมีความเครียดทางร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ หากลูกเริ่มแสดงพฤติกรรมเหล่านี้ ให้ค่อยๆ ชี้นำกลับไปสู่หลักการรับประทานอาหารแบบยืดหยุ่น

ความผิดปกติในการรับประทานอาหารมีหลายประเภท อาการที่พบบ่อยที่สุดคืออาการเบื่ออาหาร บูลิเมีย มีการรับรู้ตนเองเกี่ยวกับภาพร่างกายที่บิดเบี้ยว ไม่พอใจกับขนาดร่างกายแม้ว่าพวกเขาจะแข็งแรงดี เป็นผลให้อดอาหารหรือลดปริมาณแคลอรี่เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานที่คาดการณ์ไว้ มักเชื่อมโยงกับความรู้สึกผิดและ ความละอายที่ฝังลึกเกี่ยวกับอาหาร จึงใช้มาตรการที่รุนแรง เช่น การอดอาหาร ออกกำลังกายแบบหักโหม การอาเจียน หรือการใช้ยาระบายหลังรับประทานอาหาร

ความผิดปกติของการบริโภคอาหารแบบหลีกเลี่ยง/จำกัด เป็นโรคความผิดปกติในการรับประทานอาหารประเภทหนึ่งที่ไม่เป็นที่รู้จักมากนัก เกิดขึ้นในเด็กเล็ก เลือกรับประทานอาหารอย่างพิถีพิถัน จนทำให้น้ำหนักลดลงอย่างมาก หรือไม่สามารถเพิ่มน้ำหนักได้ ความกังวลเกี่ยวกับสี เนื้อ กลิ่น หรือรสของมัน หรือกลัวอันตรายเช่นการสำลัก

หากลูกแสดงสัญญาณของโรคเลือกกินอาหาร และน้ำหนักลดลง สงสัยว่าลูกอาจมีความผิดปกติทางการกิน ควรปรึกษาแพทย์เพื่อวินิจฉัยแนวทางที่ดีกว่าในการช่วยเหลือ เด็กที่มีปัญหาเรื่องการกินต้องอาศัยการบำบัดแบบครอบครัว ช่วยเหลือกัน

การรักษาความผิดปกติของการกิน

แนวทางการรักษาหลายอย่างร่วมกันถือว่าเหมาะที่สุด

  1. ให้คำปรึกษาด้านโภชนาการ: นักโภชนาการจะวางแผนการรับประทานอาหารตามภาวะโภชนาการของเด็ก แนะนำให้เด็ก ๆ เลือกอาหารที่เหมาะสม
  2. จิตบำบัด: การบำบัดด้วยพฤติกรรม จะเน้นที่การระบุความผิดปกติทางสุขภาพจิตที่แฝงอยู่ และการให้คำปรึกษา
  3. ยา: อาจแนะนำให้เสริมวิตามินและแร่ธาตุตามภาวะโภชนาการเด็ก
  4. ครอบครัว: สร้างสภาพแวดล้อมทางอาหารที่ดีที่บ้าน

เคล็ดลับเล็ก ๆ น้อย ๆ

  • อย่าบังคับให้มีการเปลี่ยนแปลงอาหารอย่างเข้มงวดกับลูก
  • หลีกเลี่ยงการให้รางวัลกับลูกด้วยการกิน เช่น อาหารมื้อใหญ่ หรือไอศครีม
  • กระตุ้นให้กินเฉพาะเมื่อลูกหิว และจำกัดสัดส่วนตามระดับความหิว
  • อย่าปลูกฝังนิสัยการกินเพื่อลดน้ำหนัก แต่ควรปลูกฝังนิสัยการกินเพื่อสุขภาพที่ดี

ในฐานะพ่อแม่ สิ่งสำคัญคือต้องช่วยให้ลูกมีทัศนคติที่ดีต่อร่างกายของตนเอง ทำได้โดยให้ความสำคัญกับการรับประทานอาหารเพื่อสุขภาพ และการออกกำลังกายเป็นครอบครัว ไม่ล้อเลียนหรือพูดคุยเกี่ยวกับขนาดร่างกาย และส่งเสริมมุมมองที่สมดุลของรูปร่างของมนุษย์ มุมมองเรื่องอาหารและโภชนาการที่สมดุล ซึ่งจะช่วยสร้างนิสัยการกินที่ดีต่อสุขภาพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *