ทำไมลูกท้องผูก: อาการและสาเหตุเกิดจากอะไร?

ทำไมลูกท้องผูก อาการ และสาเหตุเกิดจากอะไร?

ทราบมั้ยครับอาการท้องผูกในเด็กเป็นปัญหาเร่งด่วนทั่วเอเชีย รวมถึงประเทศไทยเราด้วยในขณะที่พ่อแม่ชาวเอเชียต้องปรับตัวเข้ากับการใช้ชีวิตสมัยใหม่และความท้าทายต่างๆ การทำความเข้าใจปัญหาสุขภาพนี้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

อาการท้องผูกคืออะไร? 

อาการท้องผูกหมายถึงการถ่ายอุจจาระผิดปกติหรือถ่ายยาก ในเด็กมักหมายถึงการที่อุจจาระมีปริมาณน้อยหรือความถี่น้อยกว่าปกติ
(อ้างอิง: “รูปแบบการย่อยอาหารในเด็ก” นพ. รัตนา พงษ์เพชร โรงพยาบาลศิริราช) 

อาการท้องผูกในเด็ก

เด็กที่มีอาการท้องผูกอาจมีอาการ:

  1. อึ๊ของลูกน้อยแข็งและแห้ง
  2. ตึงหรือไม่สบายระหว่างที่น้องนั่งอึ๊
  3. รู้สึก “อิ่ม” แม้หลังถ่ายอุจจาระ
  4. ปวดท้องหรือเกร็งเป็นตะคริว
  5. การเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมหรือความหงุดหงิด
    (อ้างอิง: “Childhood Constipation Indicators” นพ. สุนีย์ แซ่ตั้ง โรงพยาบาลรามาธิบดี) 

สาเหตุของอาการท้องผูกที่มักพบเจอ 

มีหลายปัจจัยที่ทำให้เกิดอาการท้องผูกในเด็กไทย:

  1. นิสัยการบริโภคอาหาร: แนวโน้มของอาหารแปรรูปช่วยลดปริมาณเส้นใย (fiber) การเลือกรับประทานอาหาร เช่น บะหมี่กึ่งสำเร็จรูป ข้าวผัด หรือเกี๊ยว แทนอาหารที่มีเส้นใยสูงแบบดั้งเดิมอาจส่งผลต่อการย่อยอาหารได้
  2. การออกกำลังกายลดลง: กิจกรรมเกมกลางแจ้งแบบเดิมๆ มักจะถูกแทนที่ด้วยการอยู่หน้าจอ ซึ่งจำกัดสิ่งเร้าทางกายภาพที่สำคัญต่อการเคลื่อนไหวของลำไส้เป็นประจำ
  3. ร่างกายขาดน้ำ: แม้ว่าการดื่มน้ำจะเป็นสิ่งสำคัญ แต่เด็กหลายคนมักหันไปดื่มเครื่องดื่มที่มีน้ำตาลหรือน้ำอัดลมซึ่งไม่ได้ให้น้ำเพียงพอต่อร่างกายเสมอไป (*มักมีคาเฟอีน, น้ำตาลสูง, โซเดียมสูง)
  4. กิจวัตรการกินและเข้าห้องน้ำ: วิถีชีวิตสมัยใหม่สามารถขัดขวางกิจวัตรการกินและการเข้าห้องน้ำตามปกติได้ เช่น กินไม่ตรงเวลา, ติดสิ่งเร้า (โทรศัพท์) ไม่เข้าห้องน้ำ เป็นต้น
    (อ้างอิง: “วิถีชีวิตสมัยใหม่และสุขภาพทางเดินอาหารในเด็ก” ดร.ฉัตรชัย คุณาภรณ์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย) 

การป้องกันโรคท้องผูกในเด็ก 

  1. อาหารที่สมดุล: รับประทานอาหารที่มีกากใยสูง เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี, ผลไม้สด, และผักนึ่ง อาหารหลักในไทย เช่น โจ๊กหรือผัดผักสามารถเป็นมิตรกับเด็กและมีคุณค่าทางโภชนาการได้
    อ่านบทความ คำแนะนำลูกที่กินยาก (picky eater)
  2. การออกกำลังกายเป็นประจำ: เกมง่ายๆ ในสนามเด็กเล่น การเดิน หรือไปเที่ยวสวนสาธารณะกับครอบครัวนอกจากสามารถช่วยให้เด็กๆกระฉับกระเฉง สุขภาพดีแล้ว, ยังช่วยกระตุ้นการทำงานของลำไส้, ช่วยในการย่อยอาหารด้วย
  3. การดื่มน้ำที่เพียงพอ: ตรวจสอบให้แน่ใจว่าเด็กๆ ดื่มน้ำอย่างเพียงพอตลอดทั้งวัน น้ำผลไม้สดที่ไม่เติมน้ำตาลสสลับกันไประหว่างวันอาจเป็นทางเลือกที่อร่อยได้
  4. เปลี่ยนกิจวัตรใหม่: การส่งเสริมให้รับประทานอาหารเป็นเวลา และกำหนดเวลาพักเข้าห้องน้ำโดยเฉพาะสามารถช่วยได้ เช่น ถึงเวลาทานต้องทานก่อน, มีพักกิจกรรมเพื่อเข้าห้องน้ำเป็นกิจวัตร เป็นต้น
    (อ้างอิง: “กลยุทธ์การบริโภคอาหารเพื่อป้องกันอาการท้องผูกในเด็ก” นพ. สุภาวดี ตันติสิริวัฒน์ โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์) 

ให้กำลังใจคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองทุกท่าน

การปรับสมดุลระหว่างชีวิต Generation เก่าและใหม่อาจจะทำให้เกิดความท้าทายที่ไม่คาดคิดอย่างการที่ลูกน้อยท้องผูก แต่ด้วยความรู้ที่ถูกต้องและมาตรการป้องกันในบทความนี้ ผมหวังว่าคุณพ่อ คุณแม่ และผู้ปกครองทุกท่านสามารถรับประกันระบบย่อยอาหารที่แข็งแรง ให้ลูกๆทุกคนอึ๊สบายได้นะครับ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *